รอยยิ้มบนคราบน้ำตาของ..ชาลี แชปลิน..

8 January 2014
Posted by Pimduan Natewiriyakul

ไม่ว่าโง่ หรือฉลาด ทุกคนต้องต่อสู้ด้วยตัวของตัวเอง
 (Charlie Chaplin)
                             205499_217536151595870_2599580_n

            ในวันหนึ่งหนูน้อยแชปลิน ต้องเป็นดาราจำเป็นเพราะแม่ของเขาป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบทำให้เจ็บคอและไม่มีเสียง ต้องหยุดการแสดงกลางคันผู้ชมพากันไม่พอใจ และโห่ร้องกันเอ็ดตะโรจนผู้จัดการวงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร มองซ้ายมองขวาเหลือบไปเห็นหนูน้อยแชปลินจึงพาออกมาหน้าเวทีเพื่อแนะนำต่อผู้ชม แล้วให้แชปลินทำการแสดงแทน หนูน้อยแชปลินทั้งร้องทั้งเต้นรำอย่างที่แม่ได้เคยสอนให้ โดยที่หนูน้อยแชปลินไม่มีอาการเคอะเขินแต่อย่างใด  อาจจะกล่าวได้ว่า ในวิกฤตก็ยังมีโอกาสเพราะผู้ชมต่างพากันชอบใจในการแสดงของหนูน้อยแชปลินอย่างน่าเหลือเชื่อ นับว่าเป็นการแสดงครั้งแรกของชาลี แชปลิน  แต่ก็เป็นการแสดงครั้งสุดท้ายสำหรับแม่ของเขา

                         217398_217567944926024_6162306_n

             หลังจากนั้นไม่นานแม่ของหนูน้อยแชปลินก็เสียสติและเศรษฐกิจการเงินของครอบครัวก็ตกต่ำลงเรื่อย ๆ ทำให้หนูน้อยแชปลินและพี่ชายต้องเที่ยวเร่ขายของ และทำงานรับจ้างทุกอย่างเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้ ในท้ายที่สุดหนูน้อยแชปลินและพี่ชายก็ต้องไปอยู่ในการดูแลของสถานสงเคราะห์เด็กอนาถา

              เขาคือนักแสดงตลก ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะในโลกแห่งการแสดง ภาพในวัยเด็กกลับฉายให้เห็นอีกฉากหนึ่งของชีวิต  หากเปรียบชีวิตเป็นละคร ภาพในวัยเด็กของเขาช่างขัดแย้งกับบทบาทในหนังตลกของเขาเสียเหลือเกิน

                                      205656_217553471594138_5619982_n

               ชาลี  แชปลิน (charlie chaplin) เกิดที่ลอนดอนเมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๔๓๒ แม่ของเขาเป็นนักแสดงและนักเต้นระบำ ส่วนพ่อเขานั้นเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงแต่ทว่าติดเหล้างอมแงม จนต้องแยกทางกับแม่ตั้งแต่ชาลี แชปลินยังจำความไม่ได้  ชีวิตลุ่ม ๆ ดอน ๆ ของวัยเด็กทำให้หนูน้อยแชปลินต้องทำงานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเด็กส่งของ ลูกมือแม่ครัว คนงานเป่าหลอดแก้วในโรงงาน ฯลฯ ไม่มีงานไหนที่หนูน้อยแชปลินจะชื่นชอบไปกว่าการเป็นนักเต้นระบำ คงเป็นว่าพ่อและแม่ได้ถ่ายทอดสายเลือดแห่งศิลปินเอาไว้ในตัวเขาอย่างเต็มเปี่ยม และการเป็นนักเต้นระบำนั้นเองคือบันไดขั้นแรกที่ชาลี แชปลินไต่เต้าจนเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและเป็นขวัญใจมหาชนในที่สุด

                   216286_217557981593687_1839833_n

                เพราะความลำบากและการที่ต้องสู้ชีวิตในวัยเด็กเขาจึงเข้าใจหัวอกคนยากไร้ ซึ่งเป็นคนระดับล่างของสังคม  ทำให้ในละครของเขานอกจากจะเป็นเรื่องตลกเบาสมองแต่ก็แฝงไว้ซึ่งการเสียดสีสังคม และเย้ยหยันโชคชะตา  เขามักจะแสดงเป็นกรรมกร คนเร่ร่อน นักแสวงโชค คนรับใช้ ฯลฯ  หากมองผิวเผินบทบาทในละครของเขาอาจจะดูคล้ายกับตกเป็นผู้ถูกกระทำ เป็นชายผู้น่าสงสารแต่ถ้ามองให้ลึกแล้วจะเห็นถึงการทรนงในศักดิ์ศรี ชายเร่ร่อนคนนี้ไม่เคยยอมแพ้แก่โชคชะตา เมื่อเขารอดพ้นจากภัยพาล เขามักจะชูกำปันขึ้นเหมือนเป็นการขู่ศัตรูว่าให้ระวังตัวเอาไว้ หรือบ่อยครั้งที่ชายพเนจรผู้นี้จะยักไหล่และเดินออกไปในตอนจบ คล้ายกับไม่แยแสกับสิ่งที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง เพราะชีวิตยังมีความหวังเสมอ

                         205481_217548901594595_1545950_n (3)

                ในยุคของสงครามที่กำลังปะทุขึ้น อังกฤษประกาศสงครามกับเยอรมันส่วนฝรั่งเศสกำลังถูกเยอรมันบุกถล่มอย่างหนัก ชาลี แชปลินประกาศจะสร้างหนังเรื่อง “The Great Dictator”(จอมเผด็จการ)เพื่อล้อเลียนนาซี และประท้วงฮิตเลอร์ ผลการตอบรับเป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งทางบวกและทางลบ ชาลี แชปลินได้รับโทรเลขสั่งจองจากสายหนังไม่ขาดสาย  พร้อมๆ กับจดหมายขู่ของผู้นิยมนาซีว่า ถ้าหนังออกฉายเมื่อไรเตรียมตัวรับลูกระเบิดเอาไว้ได้เลย แต่เปล่าเลย…แทนที่ชาลี แชปลินจะหวั่นวิตก เขากลับสวมวิญญาณของผู้เรียกร้องสันติภาพ ผ่านตัวละครที่เป็นช่างตัดผม ซึ่งถือเป็นตัวละครคนแรกที่มีบทพูด ในรอบ ๒๐ ปินับตั้งแต่เขาเริ่มสร้างหนัง

                207489_217564084926410_8200235_n 

“…จงอย่าสิ้นหวัง ความทุกข์ทรมานที่เราได้รับอยู่นี้

เกิดจากความละโมบและบ้าคลั่งของ

คนที่ไม่อยากเห็นความเจริญของมนุษย์ด้วยกัน

(บทพูดของตัวละคร)

               แต่ผลที่ได้รับกลับกลายเป็นว่า เขาถูกกล่าวหาว่าเป็น “คอมมิวนิสต์” และทำเนียบขาวกล่าวว่า ชาลี แชปลิน ได้สร้างความยุ่งยากเป็นอย่างมากให้กับสหรัฐอเมริกาซึ่งในขณะนั้นอเมริกาวางตัวเป็นกลางจากความขัดแย้ง ชาลี แชปลินเคยกล่าวต่อผู้มีอำนาจทางการเมืองของสหรัฐอเมริกาว่า

“…ข้าพเจ้าไม่ใช่คอมมิวนิสต์ หากเป็นปุถุชนคนหนึ่งที่รู้ว่า

คนเราควรจะปฏิบัติต่อคนด้วยกันอย่างไร คอมมิวนิสต์ไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่น

เมื่อเขาแขนขาด เขาก็เจ็บปวดเหมือน ๆ กับเรา และตายเหมือน ๆ กับที่เราตาย

และแม่ที่เป็นคอมมิวนิสต์ก็เหมือนกับแม่ทั้งหลาย เธอร้องไห้เมื่อได้ข่าวว่า

ลูกชายของเธอจะไม่กลับบ้านเหมือน ๆ กับแม่คนอื่น ๆ

ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นคอมมิวนิสต์ เพื่อที่จะรู้ซึ้งถึงสิ่งเหล่านี้…” 

                                 215450_217598184923000_4004105_n 

               ครั้งหนึ่งผู้สื่อข่าวถามชาลี แชปลินว่า
“คุณรู้จัก Hans Eisler ไหม?” ผู้สื่อข่าวถาม
“เขาเป็นเพื่อนที่ดีของผม และเป็นนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ชาลี แชปลิน กล่าว
 “แต่เขาเป็นคอมมิวนิสต์” ผู้สื่อข่าวถาม
“ผมไม่สนใจ ความเป็นเพื่อนของผมไม่ได้ตั้งอยู่บนรากฐานความคิดทางการเมือง” ชาลี แชปลินตอ
 “แต่คุณก็มักจะชอบคบหาสมาคมกับพวกที่เป็นคอมมิวนิสต์” ผู้สื่อข่าวถาม
“ไม่มีใครที่จะมาสั่งให้ผมชอบ หรือไม่ชอบใคร ชีวิตคนเรายังไม่ตกต่ำถึงขนาดนั้น จริงไหม?” ชาลี แชปลิน
                                   221923_217578918258260_5368268_n                                      

               จากดาราที่เป็นขวัญใจมหาชนกลับกลายเป็นบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ามีแนวคิดทางการเมืองที่ตั้งอยู่คนละขั้วกับคนทั้งประเทศและด้วยเหตุผลนี้เอง   ดูเหมือนว่าพื้นที่ของ  ชาลี แชปลินที่จะสามารถเหยียบยืนบนอเมริกาก็น้อยลงไปทุกที   ท้ายที่สุดชาลี แชปลินก็ออกจากอเมริกา โดยมีข่าวลือกันหนาหูว่าชาลี แชปลิน ถูกเนรเทศในข้อหา เป็นบุคคลไม่พึงปรารถณา ชาลี แชปลิน ใช้ชีวิตกับครอบครัวในช่วงบั้นปลายที่ “เวเวย์“ เมืองเล็ก ๆ ริมทะเลสาบเจนีวา บั้นปลายชีวิตอันเงียบสงบของดาวตลกผู้เคยรุ่งโรจน์เป็นเหมือนการตอกย้ำคำพูดของบรรดานักข่าวที่ว่า ชาลี แชปลิน แก่เกินไปสำหรับการกลับไปอเมริกา  และแล้วเกือบ ๒๐ ปีหลังจากที่เขามาใช้ชีวิตอยู่ที่เวเวย์ (พ.ศ.๒๕๑๕) ชาลี แชปลิน ในวัย ๘๓ ปี ก็ได้รับคำเชิญของฮอลลีวู้ดให้กลับไปรับรางวัลตุ๊กตาทองพิเศษในฐานะ “ศิลปินผู้สร้างสรรค์ศิลปะที่ยิ่งใหญ่ให้กับวงการภาพยนตร์ในรอบศตวรรษ”

 
นิตยสารไทม์วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ว่า

“…เป็นรางวัลที่มีความหมายมากกว่าการตอบแทนผลงานดีเด่น

เป็นคำขอโทษที่มีตัวตน มันมีความหมายว่า

อเมริกาทั้งประเทศได้ลบล้างความผิดพลาดที่น่าเศร้าของคนรุ่นเก่า

ในการกระทำ (ต่อชาลี แชปลิน) ที่เปรียบเสมือนการเตะขาตัวเอง…” 

 

           จากนั้นอีกสามปีต่อมา อังกฤษก็ประกาศว่าสมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบท พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวิน (Knight Commander of the Order of the British Empire)โดยทรงแตะคทาลงบนไหล่ของอดีตเด็กชายมอมแมมจากย่านสลัมกรุงลอนดอนให้กลายเป็น “เซอร์ ชาร์ลส สเปนเซอร์ แชปลิน” [Sir Charles Spencer Chaplin]ในฐานะศิลปินผู้สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าต่อสาธารณชนเป็นเวลายาวนานหลังจากนั้นเพียงสองปี เซอร์ ชาลี แชปลิน ก็จากไปอย่างอย่างสงบด้วยวัย ๘๘ ปี ณ คฤหาสน์ริมทะเลสาบเจนีวา ชานเมืองเวเวย์ เมื่อเวลาสี่นาฬิกาของวันคริสต์มาส พ.ศ. ๒๕๒๐ โดยมีภรรยา และลูก ๆ อยู่เคียงข้าง 

                                          221859_217572588258893_5222966_n

               ในบทละครเงียบเขาคือชายผู้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับโลก  ส่วนในละครแห่งชีวิต ชาลี แชปลิน คือผู้สามารถก้าวผ่านมรสุมชีวิตได้อย่างทรนง “เสียงหัวเราะคือ ยาชูกำลัง คือเครื่องผ่อนคลาย และตัวขจัดปัดเป่าความปวดร้าว”

 
ขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือ “หัวร่อร่า น้ำตาริน” (๒๕๔๙) ในโครงการหนังสือเล่มเล็ก โดย ธีรภาพ โลหิตกุล
หนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี
รูปภาพทั้งหมดจากอินเตอร์เน็ต
 

One thought on “รอยยิ้มบนคราบน้ำตาของ..ชาลี แชปลิน..

  • อ่านเพลิน และได้ข้อคิดเยอะเลย

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร