เลขมาตรฐานสากลของหนังสือมีไว้ทำไม?
คนที่ทำงานห้องสมุดโดยเฉพาะผู้ที่เรียนมาทางวิชาชีพบรรณารักษ์มักจะทราบว่าหนังสือแทบทุกเล่มนั้นจะต้องมีเลข ISBN กำกับไว้ประจำเล่มเพื่อประโยชน์อันใดนั้นก็คงจะทราบกันดี แต่สำหรับผู้ที่มิได้ร่ำเรียนมาทางนี้แต่ต้องมาเกี่ยวข้องหรือต้องมาทำงานในห้องสมุดอาจจะไม่รู้ว่าทำไมจะต้องมีเลขกำกับแล้ว ISBN นั้นหมายถึงอะไร มีประโยชน์ในทางใดบ้าง ก็ขอนำข้อมูลมาให้ทราบพอเป็นสังเขป ดังนี้
ISBN ย่อมาจาก International Standard Book Number เป็นเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ กำหนดขึ้นเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของหนังสือแต่ละชื่อเรื่อง โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นผู้กำหนดเลขให้แต่ละประเทศทั่วโลก และมอบหมายให้หน่วยงานในแต่ละประเทศเป็นผู้บริการเลข ISBN สำเร็จรูปให้กับสำนักพิมพ์ สำหรับประเทศไทยนั้นมอบหมายให้สำนักหอสมุดแห่งชาติ เป็นผู้บริการหมายเลข ISBN
ส่วนที่มาของ ISBN นั้นเริ่มจากประเทศอังกฤษที่มีบริษัทจัดจำหน่ายหนังสือขนาดใหญ่คือ บริษัท W.H. Smith ได้ร่วมกับสมาคมสำนักพิมพ์ และProf. F.G. Foster แห่ง London School of Economic ได้จัดทำตัวเลขกำกับหนังสือให้เป็นมาตรฐาน (Standard Book Number = SBN) ในปีค.ศ.1967 ต่อมาองค์การมาตรฐานระหว่างประเทศ หรือ ISO ได้ร่วมกับสมาคมสำนักพิมพ์และห้องสมุดต่างๆของยุโรปและอเมริกาเล็งเห็นความสำคัญของตัวเลขดังกล่าว จึงได้ปรับปรุงให้เป็นระบบมาตรฐานสากลในปีค.ศ.1970 เรียกว่า ISBN สำหรับประเทศไทยนั้นได้เริ่มนำ ISBN มาใช้ในปีพ.ศ. 2519 โดยหอสมุดแห่งชาติร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติได้สร้าง ISBN เพื่อใช้ภายในประเทศ และเผยแพร่ในปีพ.ศ. 2521 เป็นต้นมา โดยเมื่อก่อนนั้นจะใช้ตัวเลขจำนวน 10 หลัก โดยแบ่งตัวเลขเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก เป็นเลขรหัสกลุ่มประเทศตามภูมิศาสตร์หรือตามภาษา ของประเทศไทยใช้เลข 974 กลุ่มที่สอง เป็นเลขรหัสสำนักพิมพ์ กลุ่มที่สาม เป็นเลขแสดงลำดับของสิ่งพิมพ์ที่ผลิตจากสำนักพิมพ์ ส่วนกลุ่มที่สี่ เป็นเลขตรวจสอบ ใช้ตรวจสอบความถูกต้องในระบบคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเช่น ISBN 974-738-374-8 เป็นเลขมาตรฐานสากลของหนังสือเรื่อง การแต่งกายสมัยรัตนโกสินทร์ แต่งโดย เอนก นาวิกมูล ของสำนักพิมพ์เมืองโบราณ เป็นต้น
ต่อมาการผลิตหนังสือมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆจนเลข ISBN ที่เตรียมไว้ไม่พอรองรับจึงเริ่มปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นระบบเลข 13 หลักและเพื่อให้สอดคล้องกับระบบของต่างประเทศในการเชื่อมโยงทางธุรกิจการค้าทั่วโลกด้วย โดยทางหอสมุดแห่งชาติได้เริ่มปรับระบบและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) เป็นต้นมา โดยเลขรหัสที่เพิ่มนี้จะใช้นำหน้าเลขรหัสกลุ่มประเทศซึ่งเลขรหัสนี้จะใช้หมายเลข 978 หรือ 979 ซึ่งเป็นรหัสบาร์โค้ดแสดงสินค้า/ผลิตภัณฑ์ (จากเดิมที่ใช้เลข 10 หลักจะไม่มีส่วนนี้) เช่น 978-974-9936-15-3
ประโยชน์ของเลข ISBN มีไว้เพื่อความสะดวก ถูกต้อง รวดเร็ว ในการควบคุมข้อมูลสิ่งพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ใช้ในการสืบค้น การสั่งซื้อ การยืมคืนหนังสือ การแลกเปลี่ยนข้อมูล เมื่อนำไปใช้ร่วมกับระบบบาร์โค้ดสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการบริหารสินค้า การวางแผนการผลิต การควบคุมสินค้าและการจัดจำหน่าย
สำหรับความสำคัญของ ISBN ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้หนังสือและห้องสมุดนั้นคือการสั่งซื้อนั่นเอง เพราะ ISBN จะเป็นตัวที่ชี้เฉพาะเจาะจงกับตัวเล่มหนังสือที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้แต่ง ชื่อเรื่อง ครั้งที่พิมพ์ ปีที่พิมพ์ สำนักพิมพ์ และป้องกันการซื้อหนังสือผิดเล่ม
สิ่งพิมพ์ที่จะขอเลข ISBN ได้ เช่น หนังสือ สิ่งพิมพ์สื่อประสม แผนที่ สิ่งพิมพ์อักษรเบรลล์ ซอฟแวร์ด้านการศึกษา สิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ วิดีโอ ซีดี ดีวีดี เป็นต้น ส่วนสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่ต้องขอเลข ISBN ได้แก่ วารสาร/นิตยสาร สิ่งพิมพ์ ที่ใช้งานระยะสั้น ข้อมูลส่วนบุคคล บัตรอวยพร ปฏิทิน แผ่นบันทึกเสียงเพลง ซอฟแวร์ที่ไม่ใช่เพื่อการศึกษา จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เกมส์ หลักสูตรการเรียนการสอนของสถานศึกษา เป็นต้น ตำแหน่งที่พิมพ์เลข ISBN ของหนังสือคือ ปกหน้า หลังหน้าปกใน และที่มุมล่างของปกหลัง ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างพอสมควร หากท่านที่รู้ลึกและรู้ละเอียดดีอยู่แล้วก็ต้องขออภัยในความตื้นเขินของข้อมูลและความด้อยในสติปัญญาของฉันด้วย
One thought on “เลขมาตรฐานสากลของหนังสือมีไว้ทำไม?”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ขอบคุณมากๆ สำหรับข้อมูลค่ะ เป็นประโยชน์มากจริงๆ เพราะจะได้ใช้ในการ ตรวจสอบรายการหนังสือ หนูรู้แต่ ISSN และเลข ISBN 10 หล้ก ยังสงสัยเหมือนกันว่า ตอนนี้มี 13 หลัก มันมาจากไหนหว่า ได้คำตอบแล้ว ดีใจจริงๆ ไม่ต้องหาอ่านตั้งใจอยู่เหมือนกัน ว่าจะไปอ่าน