เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้คัดแยกและเก็บเอกสารที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และได้พบหนังสือปกเขียวที่มีชื่อว่าคู่มือจรรยาบรรณของบุคลากรในมหาวิทยาลัยศิลปากร จึงได้เปิดอ่านและนึกย้อนหลังไปเมื่อวันที่25 พ.ค.54เวลา8.30-10.30 น. ณ อาคารม.ล.ปิ่น  มาลากุล ชั้น5  สำนักหอสมุดกลางได้เชิญ รศ.ลิขิต กาญจนาภรณ์ มาพูดเรื่องจรรยาบรรณของบุคลากรในมหาวิทยาลัยศิลปากร ดังกล่าว จึงได้สรุปเรื่องจากที่ได้ฟังและที่ได้อ่านจากหนังสือลงบล็อกหอสมุดเพื่อทบทวนตนเอง ให้สำนึกถึงหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความถูกต้อง
รศ.ลิขิต กาญจนาภรณ์ ได้กล่าวว่า จรรยาบรรณของบุคลากรในมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นนโยบายของมหาวิทยาลัยและต้องทำหนังสือคู่มือแจกทุกคนเพื่อให้รับรู้ทั่วกันด้วย
จรรยาบรรณ(Ethics) เป็นหลักการที่ใช้ในการควบคุมพฤติกรรม
จรรยาบรรณ มี 3 ลักษณะ
1.เป็นบรรทัดฐานของสังคมนั้น
2.เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับหลักศีลธรรม – ระเบียบกฎเกณฑ์เช่น อะไรดี อะไรไม่ดี อะไรถูก อะไรไม่ถูก
3.เพื่อความดีของบุคคลและส่วนรวม
จรรยาบรรณไม่ใช่กฎหมาย แต่เป็นแนวปฏิบัติของกลุ่มเพื่อความสงบ สมานฉันท์ เคารพกฎเกณฑ์ ขจัดความขัดแย้ง ความรุนแรงโดยให้ระบุไว้ชัดเจนและประกาศให้รับรู้ทั่วทั้งองค์กร
จรรยาบรรณ มีความสำคัญต่อ
-พนักงานแต่ละคน                          -องค์กร
-ผู้บังคับบัญชา                              -ผู้รับบริการ,ลูกค้า,ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
จรรยาบรรณของบุคลากรในม.ศิลปากร มี
1.จรรยาบรรณต่อตนเอง
-ให้มีศีลธรรมอันดีและประพฤติตนให้เหมาะสม
-ให้มีทัศนคติที่ดีและพัฒนาตนเองให้มีคุณธรรมจริยธรรมและเพิ่มพูนความรู้
ความสามารถและทักษะในการทำงาน
-ให้พึงใช้วิชาชีพในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์และไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
(สายงานที่มีจรรยาบรรณวิชาชีพกำหนดไว้ ให้ปฏิบัติควบคู่กับจรรยาบรรณของมศก.)
2.จรรยาบรรณต่อการปฏิบัติงานต่อหน่วยงาน
3.จรรยาบรรณต่อผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้ร่วมงาน
4.จรรยาบรรณต่อนักเรียน นักศึกษา ผู้รับบริการ ประชาชนและสังคม
5.จรรยาบรรณต่อหน้าที่และวิชาชีพ
6.จรรยาบรรณของผู้บริหาร
7.จรรยาบรรณของคณาจารย์
โทษทางจรรยาบรรณ ประกอบด้วย
1.       การตักเตือน หรือ
2.       สั่งให้ดำเนินการให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด หรือ
3.       ทำทัณฑ์บน
**************************************